🧾 รายละเอียดสินค้า
🚀 ประสิทธิภาพสูงเหนือระดับ
-
เป็นมาตรฐาน microSD Express ที่มี PCIe Gen3 + NVMe ในตัว รองรับระดับความเร็วอ่านสูงสุดถึง 880 MB/s และเขียนได้ประมาณ 650 MB/s
-
แรงกว่า microSD UHS‑I ทั่วไปถึง 4.4–8.8 เท่า
⏱ การใช้งานจริง (โดยเฉพาะกับ Switch 2)
-
เมื่อเทียบกับ PNY รุ่นเดียวกัน SanDisk ทำเวลาได้ดีกว่าในการย้ายไฟล์เกม Rocket League (20 GB): 4:12 นาที เทียบกับ 6:46 นาที
-
ขณะกลับไปที่เครื่อง ใช้เวลาในระดับใกล้เคียงกัน (3:35 vs 3:22 นาที)
📦 ฟีเจอร์เสริม
-
รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ UHS‑I/II เดิมได้ (ทิ้งขีดจำกัดแค่ความเร็ว)
-
ทนต่อแรงกระแทก ความร้อน รังสี และมีรับประกันตลอดอายุการใช้งาน + บริการกู้คืนไฟล์ RescuePRO (สองปี)
✅ ข้อดี
-
ความเร็วการอ่าน/เขียนระดับ SSD พกพา
-
ลดเวลารอ ขณะติดตั้ง ย้ายเกม หรือเก็บวีดีโอคุณภาพสูง
-
รองรับการใช้งานเต็มรูปแบบใน Nintendo Switch 2 เพราะต้องใช้ microSD Express เท่านั้น
-
ทนทานและมีรับประกันตลอดอายุการใช้งาน
⚠️ ข้อควรพิจารณา
-
ราคาสูงมาก ประมาณ $70 สำหรับ 256 GB เทียบกับ microSD UHS‑I (20 $)
-
อุปกรณ์รองรับจำกัด ณ ตอนนี้ นอกจาก Switch 2 หรือกล้องระดับสูง
🎯 เหมาะกับใคร?
-
ผู้ใช้ Nintendo Switch 2 – ต้องใช้การ์ด Express เท่านั้น เพื่อให้เกมและไฟล์บันทึกทำงานได้ปกติ
-
ผู้ชม/ตัดต่อวิดีโอความละเอียดสูง (4K, RAW burst) – ลดเวลารอในการโอนย้ายไฟล์
-
หากคุณใช้การ์ด microSD เพียงเพื่อเก็บภาพยนตร์ หรือไฟล์ทั่วไป ความเร็ว UHS‑I ก็เพียงพอและประหยัดกว่า
💰 สรุปรีวิวในไทย
-
-
ได้ความเร็วระดับ SSD พกพา เหมาะกับงานหนักและใช้งานใน Switch 2
-
แต่ต้องแลกกับ ราคาที่สูงกว่ามาก เมื่อเทียบกับการ์ดยุคก่อน
-